การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติชองผู้ประกอบการด้านบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน และวิเคราะห์ถึงลักษณะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพมหานครในช่วงวันที่ 23 มีนาคม – 20 เมษายน พ.ศ. 2558 เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้ประกอบการและพนักงานที่อยู่ในสถานประกอบการด้านบริการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-tests และ F-test (One-Way ANOVA) ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายะ 31-40 ปี ตำแหน่งผู้บริหารและผู้จัดการ ระยะเวลาปฏิบัติงานในตำแหน่งปัจจุบัน 5-10 ปี ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการท่องเที่ยว ลักษณะของธุรกิจเป็นรูปแบบบริษัทมหาชน มีพนักงาน 100 คนขึ้นไป มีเงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านบาท ปัญหาในการบริการนักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่ คือ นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีไทย รองลงมา คือ ปัญหาด้านความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและการไม่สนใจในข้อมูลข่าวสารที่พึงปฏิบัติในฐานะเป็นนักท่องเที่ยว ทัศนคติของผู้ประกอบการด้านบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยงชาวจีน คือ การไม่เคารพระเบียบวินัย รองลงมา คือ มีการแก่งแย่งกันในการขอรับบริการและมีการปฏิบัติต่อพนักงานให้บริการ โดยขาดความเกรงใจ แนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน คือ ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมไทย จัดทำคู่มือส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย และประชาสัมพันธ์การเผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านทางเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า เพศ อายุ ตำแหน่งปัจจุบัน ประเภทของธุรกิจและรูปแบบของธุรกิจที่แตกต่างกันส่งผลให้ทัศนคติแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
The purpose of this study was to learn the attitude of the service providers in tourism industry toward the behavior of Chinese tourists, and to analyze the characteristic and behavior of the Chinese tourists who travel into Bangkok during 23rd March-20th April 2015. The questionnaire was used to collect general information. Sample in this study consisted of 400 entrepreneurs and employees who are in the service establishments of the tourism industry in Bangkok, analyzed the information by a computer program, statistics by frequency, percentage, average, standard deviation, t-tests and F-test (One-Way ANOVA). The study found that most of the respondents were women ages 31-40 years old, position in executives and managers, period of operation in the current position for 5-10 years, most of them were travel agencies, category of business were company with more than 50-100 employees, more than 10 million Baht of investments, Most of the problems to serve Chinese tourists was Chinese tourists did not understand Thai custom and tradition. The second problem was knowledge about Thailand and they are not interested in any necessary information to act as a tourist. The attitude of the service providers in tourism industry toward the behavior of Chinese tourists were disrespect the discipline, struggle for obtaining the services, and treat the staff by lack of thoughtfulness. Appropriate approached to improve behavior of Chinese tourists were to provide the information about Thai culture, provide the handbooks to enhance the knowledge and understanding about Thai culture, and promote and advertise Thai culture through the website of Tourism Authority of Thailand. The hypothesis testing found that different oof gender, age, current position, and category of business resulted in different attitudes towards the significance level of 0.05.
