Abstract:
ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นวิธีรักษาสุขภาพอย่างหนึ่ง แต่จากสภาพความเจริญของกรุงเทพมหานครอย่างไม่เป็นแบบแผนทำให้เกิดปัยหาการจราจรติดขัดอย่างมาก ผู้ทำงานจำนวนมาากต้องใช้เวลาในการเดินทางทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ฟิตเนสเซ็นเตอร์ในอาคารสำนักงานาจึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ทำงานที่จะจัดสรรเวลามาออกกำลังกายได้โดยสะดวกโดยไม่ต้องเดินทางไกล จากการศึกษาข้อมูลเชิงสำรวจของกลุ่มพนักงานที่ทำงานในอาคารอื้อจือเหลียง (ไม่นับรวมร้านค้าต่างๆ) พบว่า พนักงานส่วนใหญ่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของฟิตเนสเซ็นเตอร์ใดๆ นับเป็นโอกาสอันดีของธุรกิจฟิตเนสเซ็นเตอร์ ผลการศึกษา พบว่า โดยภาพรวมธุรกิจทั้ง 2 ประเภท คือ ศูนย์ออกกำลังกาย และบริการผ่อนคลาย หรือคลายเครีด มีแนวโน้มที่น่าพอใจ โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าบริการทุกประเภทมีผู้ระบุว่าสนใจเกินครึ่ง โดยเฉพาะบริการด้านการผ่อนคลาย หรือคลายเครียด พบว่า มีถึงร้อยละ 91.0 และข้อค้นพบที่น่าสนใจ คือ กลุ่มผู้ที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อนก็ให้ความสนใจในสัดส่วนที่ไม่น้อย คือ ร้อยละ 79.8 ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบที่สร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจดังกล่าวหลายประการ ประการแรก คือ ความได้เปรียบด้านสถานที่ ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความสะดวกในการใช้บริการไม่ว่าจะเป็นด้านการกำหนด หรือวางแผนด้านเวลาที่จะใช้บริการ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นความได้เปรียบที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตัวอย่างจำนวนมากถึงร้อยละ 72.5 ระบุว่ามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริกร ประการที่สอง คือ พฤติกรรมการออกกำลังกายซึ่งพบว่ามีตัออย่างถึงร้อยละ 62.4 ที่ออกกำลังกายประจำ คือ สัปดาห์ละครั้ง และร้อยละ 10.6 ที่ออกกำลังกายทุกวัน ประการที่สาม คือ กลุ่มเป้าหมาย จำนวนหนึ่งเป็นผู้ที่ใช้บริการดังกล่าวอยู่แล้วทั้งศูนย์ออกกำลังกาย (ร้อยละ 49.9) และบริการเพื่อผ่อนคลายและคลายเครียด (ร้อยละ 60.2) ประการสุดท้าย คือ ความสนใจใช้บริการข้างต้นมีลักษณะกระจายไปในกลุ่มทั้งชาย และหญิง ระดับปฏิบัติการและระดับบริหาร รวมถึงผู้ที่ไม่เคยใช้บริการมาก่อน กล่าวคือ ความดึงดูดใจดังกล่าาวสามารถเข้าถึงได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย