Abstract:
ภาคนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเลือกถือบัตรเครดิตและการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดจนการศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการใช้บัตรเครดิตที่เกิดขึ้น โดยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กำหนดตัวอย่างแทนประชากรรวม ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 200 คนในเขตกรุงเทพมหานคร จัดทำวิธีวิจัยต่างๆตามระเบียบวิธีวิจัยที่เหมาะสม ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจหลายประการตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีการถือบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์มากกว่าผู้ไม่ถือบัตรเครดิต และถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นอันดับหนึ่ง วงเงินบัตรเครดิตที่ได้รับอยู่จะอยู่ในช่วง 50,001 – 100,000 บาท ในปี 2545 กลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนบัตรหรือเพิ่มบัตร ส่วนเหตุผลในการเปลี่ยนบัตรหรือเพิ่มบัตร พบว่ามาจากเหตุผลในด้านของค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกิดจากบัตรเดิม และแรงจูงใจจากการส่งเสริมการขายที่มี ปัจจัยมาจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ในส่วนอัตราการใช้บัตรเครดิตจะอยู่ในค่าเฉลี่ย 6 – 10 ครั้งต่อเดือน โดยส่วนใหญ่จะใช้จ่ายกับกิจกรรมในการจ่ายค่าอุปโภคบริโภค โดยมีการส่งเสริมการขายในส่วนของการสะสมคะแนนที่ได้รับเมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต เป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจใช้จ่ายผ่านบัตรมากที่สุด ปัญหาของผู้ใช้บัตรเครดิตส่วนใหญ่เป็นปัญหาในด้านค่าธรรมเนียมและค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นมา รวมทั้งปัญหาที่ร้านค้าบางแห่งไม่ยอมรับการจ่ายด้วยบัตรเครดิต - ในส่วนของอุปสรรคในการใช้บัตรเครดิตกลุ่มตัวอย่างพบว่าไม่มี อุปสรรค และถ้าในอนาคตกลุ่มตัวอย่างจะสมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิต/สมัครเพิ่ม ธนาคารที่สนใจเป็นอันดับแรกคือธนาคารกสิกรไทย เหตุผลที่คำนึงถึงในการสมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิตธนาคาร พบว่ารอบระยะเวลาในการชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรมีเหตุผลที่คำนึงถึงเป็นอันดับหนึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บเป็นอันดับสองและชื่อเสียงของบัตรเครดิตและธนาคารเป็นอันดับสาม ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้บัตรเครดิตที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกใช้ พบว่าปัจจัยที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด คือ ความสะดวกปลอดภัยจากการถือเงินสดสำหรับผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1. การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกถือบัตรเครดิตมากที่สุด 2. พฤติกรรมในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตขึ้นกับการส่งเสริมการสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล 3. ส่วนใหญ่ของผู้ถือบัตรเครดิต มีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบสิ่งที่น่าพิจารณาต่อไปอีกจากผลการศึกษาในภาคนิพนธ์ฉบับนี้ พบว่ารายได้ของกลุ่มตัวอย่างมีส่วนต่อการถือบัตรเครดิตและจำนวนบัตรเครดิต รวมถึงจำนวนวงเงินที่ได้รับจากธนาคาร กลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะทำบัตรเครดิตกับธนาคารที่เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป ผู้ถือบัตรได้เสนอแนะเกี่ยวกับการลดหรือยกเลิกค่าธรรมเนียมต่างๆ การยกเว้นค่าธรรมเนียมจากการเบิกเงินล่วงหน้า ทางร้านค้าไม่ควรคิด service charge เพิ่มจากสินค้าหรือบริการต่างๆ, ออกแบบบัตรให้มีความสวยงาม ทันสมัยและใช้ร่วมกับอย่างอื่นได้ จากข้อเสนอแนะดังกล่าวนำไปสู่ปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจในการเลือกถือบัตร ดังนั้นข้อเสนอแนะข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อธนาคารพาณิชย์ผู้ออกบัตร เพื่อใช้ปรับปรุงการดำเนินงานและวางกลยุทธ์ทางด้านบัตรเครดิตให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากปริมาณบัตรของธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปี 2545 จะอยู่ที่ประมาณ 3.6 ล้านบัตร และคาดการณ์ว่าในปี 2546 จะมีปริมาณบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 4.3 ล้านบัตร คิดเป็นอัตราการเติบโต 25% จากปี 2545 ในขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรและยอดสินเชื่อคงค้างต่อบัตรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันสุดท้ายนี้ ทางผู้จัดทำต้องการนำเสนอผลการศึกษาจากภาคนิพนธ์ฉบับนี้เพื่อเป็นพื้นฐานของการศึกษาต่อเนื่อง สำหรับผู้สนใจในอนาคตน่าที่จะศึกษาต่อในลักษณะของการศึกษาความพึงพอใจของผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารในประเทศไทย, ศึกษาเปรียบเทียบทัศนะต่อการใช้บัตรเครดิตของผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารพาณิชย์ ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายก่อนการถือบัตรและหลังการถือบัตรเครดิตธนาคารพาณิชย์ ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่น่าศึกษาทั้งสิ้น