Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อทัศนคติและกลยุทธ์ในการพัฒนาและฝึกอบรมของบุคลากร กรณีศึกษา บริษัท ซาโต้ ออโต้-ไอดี (ประเทศไทย) จำกัด โดยจำแนกตามลักษณะทางปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ตำแหน่งงาน อายุงาน แผนก/สายการปฏิบัติงาน ที่จะส่งผลต่อทัศนคติของบุคลากรในการพัฒนาและฝึกอบรมและกลยุทธ์ในด้านหลักสูตรการฝึกอบรม ด้านกิจกรรมการฝึกอบรม และด้านวัฒนธรรมองค์กรการฝึกอบรม ผู้ศึกษาได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากบุคลากรจำนวน 91 ชุด สถิติที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยสถิติพรรณนาแสดงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สถิติเชิงอนุมาน คือ Independent t-test และ One-Way ANOVA เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธี Scheffe
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 26-30 ปี มีสถานะในการทำงานเป็นพนักงานปฏิบัติการ อายุงานระหว่าง 3-5 ปี กลุ่มประชากรแผนกผลิตมีจำนวนมากที่สุด เมื่อวิเคราะห์จากระดับความคิดเห็นพบว่า การฝึกอบรมเป็นการเพิ่มพูนความรู้อยูในระดับความคิดเห็นด้วยมากที่สุด และการฝึกอบรมไม่มีประโยชน์ ควรจะเลิกจัดการฝึกอบรมได้แล้ว อยู่ในระดับความคิดเห็นไม่เห็นด้วยมากที่สุด
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า เพศ ส่งผลต่อทัศนคติด้านบวกในการพัฒนาและฝึกอบรมโดยเฉลี่ยต่างแตกกันมากที่สุด ในเรื่องผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมเป็นผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการเพิ่มพูนความรู้ในการทำงานและการฝึกอบรมเป็นการเพิ่มพูนความรู้ ส่วนทัศนคติด้านลบ เพศส่งผลต่อทัศนคติในการพัฒนาและฝึกอบรม โดยเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มากที่สุดในเรื่องการฝึกอบรมเป็นการพักผ่อน และการเข้ารับการฝึกอบรมเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งทางด้านกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาและฝึกอบรม ในกลยุทธ์ด้านหลักสูตรการฝึกอบรม ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ อายุงาน และแผนกงานส่งผลต่อทัศนคติในการพัฒนาและฝึกอบรม กลยุทธ์ด้านกิจกรรมการฝึกอบรม เพศ และตำแหน่งงานส่งผลต่อทัศนคติในการพัฒนาและฝึกอบรม กลยุทธ์ด้านวัฒนธรรมองค์กร อายุ ตำแหน่งงาน และแผนกงานส่งผลต่อทัศนคติในการพัฒนาและฝึกอบรม โดยเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05