การศึกษา วิเคราะห์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในมิติกฎหมายของประเทศในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก, เหนือ-ใต้ (EWEC – NSEC – SEC)

Abstract

การวิจัยในโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยศึกษากฎหมาย ของประเทศต่างๆในระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออก ตะวันตก และ เหนือ ใต้ เพื่อให้ทราบว่ากฎหมายที่มีอยู่ของแต่ละประเทศนั้นมีลักษณะและเนื้อหาสาระอย่างไร มีการบังคับใช้อย่างไร และปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้างในทางปฏิบัติ รวมทั้งการศึกษาภาคสนามในการลงพื้นที่เพื่อให้ทราบปัญหาที่ เกิดขึ้น และ วิเคราะหแจากข้อมูลที่ค้นพบเพื่อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นว่ามีมาตรการอย่างไรบ้าง รวมทั้งศึกษาจากบทเรียนของประเทศต่างๆ เพื่อนํามาปรับปรุงกฎหมายของประเทศไทย การศึกษาในงานวิจัย ฉบับนี้จะดําเนินการทั้งในระดับกฎหมายภายในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาเกี่ยวกับการปูองกัน และปราบปรามการค้ามนุษยแในระดับสากล และในระดับภูมิภาค อีกทั้งศึกษามูลฐานของปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่ง เกิดจากปัญหาทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยเฉพาะการขาดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย จากผลของการศึกษาพบว่า ปัญหาทางด้านกฎหมายของแต่ละประเทศมีลักษณะรวมบางประการได้แก่ ปัญหาการ ตีความ ขอบเขตของการนิยาม “การค้ามนุษย์” เพราะในสังคมที่แตกต่างกันอาจจะมีลักษณะของการค้ามนุษย์ที่ แตกต่างกัน ปัญหาในการดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิด การแยกเหยื่อจากการเป็นผู้กระทําความผิด การคุ้มครอง ป้องกันพยาน การขาดแคลนงบประมาณ การขาดความเชี่ยวชาญ ชํานาญการของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวของ การต้องบังคับการตามกฎหมายหลายฉบับที่อาจจะซ้ำซ้อนกัน หรือเป็นช่องว่างในการบังคับกฎหมาย ปัญหาการทุจริจ คอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สําหรับระดับภูมิภาคยังไม่มีการประมวลกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ ความร่วมมือในการดําเนินคดีในระดับภูมิภาค และยังไม่มีการกําหนดมาตรฐานของการประเมินสภาพการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นเอกภาพในระดับอาเซียน ส่วนในระดับสากล ยังมีปัญหาการบังคับใช้ สนธิสัญญา ที่ขาดประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงการร่วมมือแบบ lip service ซึ่งทําให้ไม่มีมาตรการบังคับ อย่างเป็นรูปธรรม การประเมินการปราบปรามการค้ามนุษย์ยังมีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง สําหรับ แนวทางในการแก้ไขปัญหาในระดับภายในประเทศให้มีการประมวลกฎหมายว่าด้วยยการป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ โดยผนวกกฎหมายสาระบัญญัติ และวิธีสบัญญัติไว้ในประมวลเดียวกันโดยแบ่งเป็นภาคสาระบัญญัติ และภาควิธีสบัญญัติ ให้มีลักษณะที่เหมาะสมกับลักษณะคดีการค้ามนุษย์ มีการอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีการ กําหนดงบประมาณให้เพียงพอ การคุ้มครองเหยื่อและพยาน ส่วนในระดับภูมิภาคให้มีการทําสนธิสัญญากําหนด ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งกําหนดมาตรฐานอาเซียนในการประเมินการ ปฎิบัติการ กําหนดกรอบและขอบเขตคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ให้ชัดเจน ในระดับสากลให้มีการเจรจากําหนด มาตรการบังคับใช้กฎหมาย กล่าวคือการปฎิบัติตามพันธกิจภายใต้สนธิสัญญาในระดับปฏิบัติการอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมาตรการลงโทษในกรณีที่ไม่ปฎิบัติตามสนธิสัญญาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เพียงการรายงานตาม บทบาทของประเทศที่เป็นมหาอํานาจทางการเมือง อีกทั้งมีการประเมินการบังคับการตามสนธิสัญญาอย่างสม่ำเสมอ หากมีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในทุกระนาบดังกล่าวย่อมมีผลสัมฤทธิ์ที่สามารถประเมินได้ ในลักษณะที่เป็นรูปธรรม และเมื่อมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายแล้วจําเป็นที่จะต้องมีคู่มือเพื่ออธิบายกฎหมายและ การบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจนเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าใจในกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างชัดแจ้ง และสามารถปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

The research in this project aims to study and analyze the human trafficking problem. Studying the laws and regulations of various countries in the East-West, North-South Economic Corridor to know the existing laws of the studied countries, what the substantive and procedural laws of each country are like. How to enforce the laws, and what are the problems of law enforcement in practice of these countries? Including field research studying in the specific areas to identify the problems and analysis of the information found and fact finding to suggest ways and measures to solve such problems. Including lessons learned from the studied countries in order to improve the law and regulations of Thailand. The study in this research was carried out at the level of domestic law and international law. The treaties on the prevention and suppression of human trafficking at the international and regional level. The fundamental causes of human trafficking are the social, economic and political problems, particularly the lack of effective law enforcement. The results of the study showed that the legal issues of each country have some common characteristics. They are the problems of the Interpretation, scope of definition of "Human Trafficking" because in different societies may have different traits of human trafficking. Lawsuit against the perpetrator, the problem of the separation of victims from being an offender, protection of witness, lack of expertise of the staffs, law enforcement agency may be overlapping, or in some circumstances there is a vacuum to enforce the laws. Corruption of related officers. To solve the problems, at the regional level, there is no treaty or regional code on the prevention and suppression of human trafficking. There are no regional standards for assessing law enforcement at the ASEAN level. Internationally still, there are problems of enforcing the treaty or the lack of efficient application of the obligation under the treaty. Most of them are just lip-service, the parties to the treaty make no concrete regulatory action. The assessment of the suppression of human trafficking has also influenced by the political involvement. For solutions at the national level, the Codification of the Prevention and Suppression of Human Trafficking by combining the substantive laws and procedural law in the same code will be needed, it will be divided into the part of substantive law and the other part dealing with the procedural law to be more appropriate to the specific nature of the human trafficking case. Training the related staffs of the competent authority, providing sufficient budget, protection of Victims and Witnesses. At the regional level, there should be a treaty on cooperation in prevention and suppression of human trafficking. It should also set the ASEAN standard for performance appraisal, establish clear legal framework and definition of scope for human trafficking. At the international level, there should be the negotiations for the cooperation of law enforcement measures, namely, the implementation of the obligations under the treaty at the operational level. As well as to specify the punishments in case of failure to comply with the treaty properly. It's not just reporting the situation of human trafficking based on the role of a political power. The Convention should be regularly evaluated. If all the problems of human trafficking are improved in all these areas, the results can be assessed in a concrete manner. When the new law is to be legislated, there should be a requirement for a clear legal guide and clearer explanation of the legislation so that all sectors can understand the law clearly and effectively.