การวิเคราะห์ความแตกต่างในต้นทุนมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ยากรณีศึกษา : โรงงานผลิตยาบริษัท บู๊ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

Abstract

รายงานฉบับนี้เป็นการศึกษาถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างในต้นทุนมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ยา รวมทั้งศึกษาถึงแนวทางที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตยาลดลง โดยทำการศึกษาจากข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ทำการบันทึกไว้แล้ว ในระหว่างเดือนเมษายน พ.ศ. 2540 ถึงเดือน มีนาคม 2541 ประกอบด้วยการคิดต้นทุนมาตรฐานต้นทุนจริงที่ใช้ในการผลิต ค่าความแตกต่าง พบว่า เกิดผลต่าง ดังนี้ Direct Material Cost. Direct Material Price Variance ซึ่งเกิดจาการคำนวณที่มีประสิทธิภาพภายในฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายจัดซื้อ วัตถุดิบ ซึ่งโดยรวมสามารถซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่ามาตรฐาน วัตถุดิบที่ซื้อในประเทศสามารถซื้อได้ต่ำกว่ามาตรฐาน = 2.01% วัตถุดิบที่ซื้อจากต่างประเทศซื้อในราคาที่สูงกว่ามาตรฐาน = 6.0% ทั้งนี้ เกิดจากการปรับ อัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นตลอดเวลา • Direct Material Usage Variance เกิดผลต่างเป็น Favorable = 2.2% แสดงว่า การใช้วัตถุดิบ ทางตรงในการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิด Waste Direct Labor Cost. Direct Labor Rate Variance เกิดผลต่างเป็น Unfavorable = 5.23% ของอัตราค่าจ้างแรงงาน มาตรฐาน อันเนื่องมาจากทำงานล่วงเวลา ดังจะเห็นได้จาก ต้นทุนค่าแรงงานที่เกิดขึ้นจริงคิดเป็นต้น ทุนค่าแรงงานล่วงเวลา = 16% ของต้นทุนค่าแรงงานทางตรง • Direct Labor Efficiency Variance เกิดผลต่างเป็น Favorable = 3.27% แสดงถึงการทำงาน ของคนงานมีประสิทธิภาพ มีความชำนาญ และมีทักษะ Factory Overhead Cost. Spending Variance เกิดผลต่างค่าใช้จ่ายโรงงานผันแปรเป็น Unfavorable = 8.08% ค่าใช้จ่าย โรงงานคงที่เป็น Unfavorable = 9.15% อันเนื่องมาจากการใช้จ่ายเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ เช่น Factory Supply, Overtime, Electricity, Repair & Maintenance เป็นต้น Efficiency Variance เกิดผลต่างเป็น Favorable = 11.25% เนื่องจากการทำงานคนงานมี ประสิทธิภาพก่อให้เกิดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายผันแปรโรงงานคิดเข้างานมีจำนวนน้อยกว่างบประมาณ ของค่าใช้จ่ายโรงงาน ณ. กำลังการผลิตจริง Production Volume Variance เกิดผลต่างเป็น Favorable = 3.23% แสดงว่า ค่าใช้จ่ายในส่วนคงที่คิดเข้างานมีจำนวนน้อยกว่างบประมาณของค่าใช้จ่ายโรงงาน ณ ระดับการผลิตปกติ