ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้นิตยสารเนชั่น จูเนียร์ เป็นหนังสือประกอบการสอนเสริมหลักสูตรภาษาอังกฤษของอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมศึกษา

Abstract

การศึกษาด้วยตนเองเรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้นิตยสาร Nation Junior เป็นหนังสือประกอบการสอนเสริมหลักสูตรภาษาอังกฤษของอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมศึกษา” เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ปัญหาของการศึกษาในครั้งนี้ คือ ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเฉพาะในตำราเรียน ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวันได้เท่าที่ควร การเรียนรู้จากสื่อต่างๆ เป็นการเพิ่มพูนการเรียนการสอนให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของชีวิตและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยเพื่อศึกษาถึงความน่าสนใจของนิตยสาร Nation Junior และศึกษาสภาพการใช้ Nation Junior ประกอบการสอน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ อาจารย์ในหมวดภาษาอังกฤษในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 2 จำนวน 141 คน การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ศึกษาจัดทำโดยนำแบบสอบถามที่ได้รวบรวมวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรม SPSS FOR WINDOW VERSION 12 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ออธิบายข้อมูลด้านประชากรศาสตร์และพฤติกรรมการใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประสมทางการตลาดกับ พฤติกรรมการใช้โดยใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติไค-สแควร์ (Chi-Square ) จากการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 83.70 มีอายุระหว่าง 41-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 44.00 มีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 82.30 ส่วนใหญ่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ 83.70 ประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษอยู่ในช่วงระหว่าง 5-10 ปี คิดเป็นร้อยละ 45.40 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง เมื่อพิจารณาเฉพาะพฤติกรรมการใช้พบว่า ลักษณะการใช้ส่วนใหญ่ใช้ทุกเล่ม คิดเป็นร้อยละ 48.23 โดยระยะเวลาการใช้ Nation Junior เป็น คู่มือการสอนมากกว่า 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 50.40 ระดับชั้นในการสอนคือ มัธยมศึกษาปีที่ 5 คิดเป็นร้อยละ 35.50 ซึ่งตัวท่านเองเป็นผู้มีส่วนในการตัดสินใจใช้ คิดเป็นร้อยละ 44.68 สถานที่ในการซื้อส่วนใหญ่คือ สั่งซื้อจากพนักงานขาย คิดเป็นร้อยละ 68.09 และต้องการให้มีระยะเวลา การวางจำหน่ายเป็นรายปักษ์ คิดเป็นร้อยละ 63.10จากความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการใช้ สามารถสรุปได้ว่า เพศ ระดับการศึกษา และตำแหน่ง ไม่มีความสัมพันธ์กับลักษณะการใช้ ระยะเวลาการใช้ ระดับชั้นในการสอน ผู้มีส่วนในการตัดสินใจใช้ สถานที่ในการซื้อ และระยะเวลาการวางจำหน่าย ส่วนอายุ มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการใช้ ระดับชั้นในการสอน สถานที่ในการซื้อ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับลักษณะการใช้ ผู้มีส่วนในการตัดสินใจใช้ ระยะเวลาการวางจำหน่าย และประสบการณ์การสอน มีความสัมพันธ์กับลักษณะการใช้ ระยะเวลาการใช้ ระดับชั้นในการสอน และสถานที่ในการซื้อ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนในการตัดสินใจซื้อ และระยะเวลาการวางจำหน่าย ผลการศึกษาจากระดับความคิดเห็นส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญด้านราคา เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านผลิตภัณฑ์ ส่วนด้านช่องทางการจัดจำหน่ายมีความสำคัญเป็นอันดับสุดท้าย