Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2236
Title: | การวิเคราะห์และประเมินความคุ้มค่าทางธุรกิจในการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลเป็นพลังงานทดแทนจากก๊าชธรรมชาติ NGV ในภาคการขนส่งขององค์กร : กรณีศึกษาบริษัท บอรอลคอนกรีตและหินทราย จำกัด |
Other Titles: | Economic Analysis and Addessment for Changing from Gasoline to Renewable Energy (NGV) in Transportation Sector : A Case Study of Boral Concrete & Quarry Company Limited. |
Authors: | บรรเจิดศักดิ์ สัณหภักดี Benjertsak Sannhapuckdee จิราวัฒน์ เพ็ชรวงศ์ Jirawat Petchwong Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration |
Keywords: | ก๊าซธรรมชาติ Natural gas ยานพาหนะก๊าซธรรมชาติ Natural gas vehicles น้ำมันดีเซล Diesel fuels พลังงานทดแทน Renewable energy sources การศึกษาความเป็นไปได้ Feasibility studies การวิเคราะห์คุณค่า (การควบคุมต้นทุน) Value analysis (Cost control) บริษัท บอรอลคอนกรีตและหินทราย จำกัด |
Issue Date: | 2012 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
Abstract: | การศึกษาอิสระเรื่องการวิเคราะห์และประเมินความคุ้มค่าทางธุรกิจในการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลเป็นพลังงานทดแทนจากก๊าซธรรมชาติ NGV ในภาคการขนส่งขององค์กร กรณีศึกษา บริษัท บอรอลคอกรีตและหินทราย จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยการวิเคราะห์และประเมินความคุ้มค่าทางธุรกิจในการนำพลังงานทดแทนจากก๊าซธรรมชาติ NGV มาใช้แทนพลังงานเชื้อเพลิงดีเซล ในภาคการขนส่งขององค์กรกับรถประเภทต่างๆ เช่น รถโม่ รถ Cement Tanker และรถ Tipper ผลการศึกษาพบว่าราคาน้ำมันดีเซล มีความสัมพันธ์แบบผกผันกับความคุ้มค่าทางการเงิน เช่น เมื่อราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นระยะเวลาคืนทุนจะน้อยลง ในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาน้ำมันดีเซลลดลงระยะเวลาคืนทุนจะเพิ่มขึ้นและความคุ้มค่าจะเกิดขึ้นสูงสุดเมื่อราคาน้ำมันดีเซลและราคาก๊าซธรรมชาติ NGV มีค่าต่างกันมากที่สุด โดยราคาน้ำมันดีเซลต้องสูงกว่าราคาก๊าซธรรมชาติ NGV และไม่ว่าราคาน้ำมันดีเซลและราคาก๊าซธรรมชาติ NGV จะเพิ่มหรือลดลง ความคุ้มค้าทางการเงินของระบบ Dedicated จะมีมากกว่า ระบบ DDF เสมอในเงื่อนไขการใช้งานขององค์กร และทุกเงื่อนไขการคำนวณข้างต้นชี้ให้เห็นว่าค่า NPV มีค่าเป็นบวก และค่า IRR มีค่ามากกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย MLR และ MRR ที่ 8..3139% รวมถึงเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบว่าหากไม่นำเงินไปลงทุนโครงการแต่นำเงินลงทุนนั้นไปฝากธนาคาร ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.75 เปอร์เซ็นต์ต่อปี (อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับนิติบุคคลธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554) ในกรณีที่เงินลงทุนมาจากผลกำไรขององค์กรจะได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 31,973.31, 38,425.98, 38,425.98 บาท ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่า NPV มาก ผลการวิเคราะห์จึงแสดงให้เห็นว่าทุกเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นสามารถลงทุนโครงการได้ |
Description: | การศึกษาอิสระ (บธ.ม.) (บริหารธุกิจ) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2555 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2236 |
Appears in Collections: | Business Administration - Independent Studies |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Jirawat-Petwong.pdf Restricted Access | 19.92 MB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.