กลยุทธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความสามารถในการบริหารจัดการร้านค้าของผู้ประกอบการในห้างสรรพสินค้าในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และศึกษาสภาพการแข่งขันทางการตลาดของผู้ประกอบการร้านค้าในห้างสรรพสินค้าในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยดำเนินการค้นคว้าและเก็บรวบรวมข้อมูล แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดตัวอย่างเป็นผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 135 ร้านค้าและใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงพรรณนาและเชิงปริมาณโดยการคำนวณหา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้สถิติทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียรสัน (Pearson correlation) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 30-40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ระยะเวลาประกอบธุรกิจน้อยกว่า 5 ปี และกำไรที่ได้จากยอดขายอยู่ที่ 50,001-100,000 บาท ส่วนกลยุทธ์ด้านการตลาดส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการกำหนดราคาสินค้าช่วงแนะนำ การนำสินค้าแปลกใหม่ทันสมัยมาจำหน่าย สโลแกนของตราสินค้าจดจำง่าย มีการติดป้ายโฆษณากลางแจ้งเพื่อสร้างความถี่และมุ่งเน้นในการเข้าถึงของลูกค้า ความจำเป็นและความต้องการสินค้ามีผลต่อการตัดสินซื้อ มีการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่มีความเหมาะสมเฉพาะตัวกับลูกค้าแต่ละคน บริการที่เราเสนอขายต้องสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง สินค้าใช้ง่ายสะดวกรองรับการใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยในระดับมากที่สุด และความอยู่รอดของผู้ประกอบการร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการบริหารและควบคุมต้นทุนอยู่ตลอดเวลาในระดับมากที่สุด

The objective of this study is to study the entrepreneur’s business management ability and market competition at department store in Victory Monument area and market competition in a department store at Victory Monument area. A detailed study have been done base on theories and related previous researches. The primary date was collected though questionnaire from 135 entrepreneurs in a department stare at Victory Monument area. This data was further analyzed on qualitative and quantitative analysis by identify visiting frequency, mean average and standard deviation by using Pearson Correlation with correlation at 0.05. The studies shown that majority of respondents are female age between 30-40 years old, Bachelor of Education and running a business on fashionable clothes and jewelry with business running less than 5 years. The margin is in range of 50,001-100,000 baht. The main strategy is pricing on launching campaign, introducing new product and new technology, using easy slogan for brand recognition and using advertising banner for customer attraction to create visiting frequency. The decision making factor is necessity and need. The offering also needs to match to individual customer’s need. The most convenient for using also need to be match to all gender and range of age. The most significant for entrepreneur’s survival is business management and cost controlling.