การศึกษาเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนทองคำกับกองทุนน้ำมัน

Abstract

การลงทุนในกองทุนรวมทองคำและกองทุนรวมน้ำมัน ผู้ลงทุนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่จัดตั้งกองทุนรวมที่ ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund :FIF) จัดตั้งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละ กองทุนรวมมีนโยบายและการบริหารการลงทุนของกองทุนที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของ กองทุนเอง โดยนำเงินที่ได้จากการระดมเงินทุนผ่านกองทุนรวมไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือ สินทรัพย์ทางการเงินระหว่างประเทศ ผลการศึกษาเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุนรวมทองคำและกองทุนรวม น้ำมัน หาความสัมพันธ์โดยการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ (Correlation Analysis) และการถดถอยเชิง เส้น (Liner Regression Analysis) และอัตราผลตอบแทนของกองทุนทองคำกับกองทุนน้ำมันที่ ปรับด้วยความเสี่ยง ตามมาตราวัดตามตัวแบบของ Sharpe กับ Treynor - Black เป็นการศึกษาใน ช่วงเวลา เดือนมกราคม -ธันวาคม 2555 เป็นช่วงที่ราคาทองคำและน้ำมันในตลาดโลกมีความผัน ผวนเป็นอย่างมาก พบว่ากองทุนทองคำกรุงไทย (MFC-Gold) และทองคำทหารไทย (TMB-Gold) มีความสัมพันธ์กับกองทุน SPDR Gold Trust น้อยที่สุด 0.8350 และ มากที่สุด 0.9089 ตามลำดับ กองทุน K -Gold และ MFC - Gold มีความสัมพันธ์กับราคาทองคำ (London PM) น้อยที่สุด 0.8344 และมากที่สุด 0.9609 ตามลำดับ กองทุนกรุงไทยน้ำมัน (MFC - OIL) และ ทิสโก้น้ำมัน (TISCO - OIL) มีความสัมพันธ์กับกองทุน PSDB - OIL น้อยที่สุด 0.7468 และมากที่สุด 0.8104 ตามลำดับ ผลการวัดผลการดำเนินงานกองทุนรวมทองคำและกองทุนรวมน้ำมันเปรียบเทียบความ เสี่ยงด้วยตัววัดของ Sharpe Ratio จะพบว่าทั้ง 8 กองทุนรวม ได้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าอัตรา ดอกเบี้ยพันธะบัตรรัฐบาล อายุ 1 ปี กองทุนรวม K-Goldมีผลการดำเนินงานที่ปรับด้วยความเสี่ยงที่สูงที่สุดในบรรดากลุ่มการลงทุนทั้งหมดเท่ากับ - 0.0143 การลงทุนในทองคำแท่งให้ผลตอบแทน ต่ำที่สุดเท่ากับ - 0.0286 กองทุนรวมน้ำมัน K - Oil และ MFC - Oil มีผลการดำเนินงานที่ปรับด้วย ความเสี่ยงที่สูงที่สุดในบรรดากลุ่มการลงทุนกองทุนน้ำมัน โดยมีค่า Sharpe เท่ากับ - 0.0031 และ เท่ากับ - 0.0122 ตามลำดับ จากผลการวัดผลการดำเนินงานกองทุนรวมทองคำและกองทุนรวมน้ำมันเปรียบเทียบ ความเสี่ยงด้วยตัววัดของ Appraisal Ratio จะพบว่ากองทุนรวม SCB-GOLD และกองทุนรวม MFC-GOLD มีผลการดำเนินงานที่ปรับด้วยความเสี่ยงสูงที่สุดและต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มการลงทุน ทั้งหมดเท่ากับ 0.3790 และ 0.3763 ส่วนกองทุนรวมน้ำมันทั้ง 4 กองทุน มีค่า Appraisal Ratio เท่ากับ - 0.0004 และมีผลการดำเนินงานเปรียบเทียบความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุน PSDB-OIL ที่เป็น กองทุนตลาด จากผลการคำนวณแนวโน้มเชิงเส้นผลตอบแทนที่ได้จากสมการถดถอยเชิงเส้น พบว่า กองทุนรวมทองคำทั้ง 4 กองทุนมีค่าความชันเป็น “บวก” หรือมีแนวโน้มอัตราผลตอบแทนเพิ่ม สูงขึ้น แต่มีค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจเข้าใกล้ "ศูนย์” ดังนั้นกองทุนรวมทองคำทั้ง 4 กองทุนไม่ เหมาะนำใช้พยากรณ์มูลค่าผลตอบแทน ส่วนกองทุนรวมน้ำมันทั้ง 4 กองทุน พบว่ามีค่าความชัน เป็น “บวก” หรือมีแนวโน้มอัตราผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น แต่สัมประสิทธิ์การตัดสินใจค่อนข้างต่ำ ไม่เหมาะนำมาใช้พยากรณ์ ข้อเสนอแนะจากงานศึกษาพบว่าในช่วงที่พิจารณากองทุนทองคำจำนวน 4 กองทุน และ กองทุนน้ำมันจำนวน 4 กองทุนในช่วงปี 2555 ถือเป็นการศึกษาในระยะไม่เกิน 1 ปี เป็นการศึกษา ในระยะสั้นและมีโอกาสทำกำไรในช่วงนี้ได้น้อย ดังนั้นผู้ลงทุนควรเลือกลงทุนในจังหวะที่ เหมาะสมหรือลงทุนในระยะยาว อาจสร้างผลตอบแทนได้ไม่น้อยไปกว่าค่าเฉลี่ยของการเติบโตใน สินทรัพย์ทองคำระยะยาวและเลือกลงทุนในน้ำมันเมื่อมูลค่าน้ำมันดิบต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวก็ น่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระดับเดียวกับการเติบโตของราคาน้ำมันในช่วงนับจากนี้