Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/545
Title: 《梁山伯与祝英台》和《曼谷王朝》 之比较
Other Titles: การศึกษาเปรียบเทียบนวนิยายเรื่อง "ม่านประเพณี" และเรื่อง "รัตนโกสินทร์"
A Comparative Study of "The Butterfly Lovers" and "Rattanakosin"
Authors: 徐华
Xu, Hua
สวี ฮว๋า
牟婉青
ขวัญกมล พลศร
Keywords: วรรณคดีเปรียบเทียบ -- จีนกับไทย
Comparative literature -- Chinese and Thai
นวนิยายจีน -- ประวัติและวิจารณ์
Chinese fiction -- History and criticism
นวนิยายไทย -- ประวัติและวิจารณ์
Thai fiction -- History and criticism
การศึกษาข้ามวัฒนธรรม
Cross-cultural studies
ความรักในวรรณกรรม
Love in literature
Cross-Cultural Comparison
Content analysis (Communication)
การวิเคราะห์เนื้อหา
ม่านประเพณี (นวนิยาย) -- ประวัติและวิจารณ์
รัตนโกสินทร์ (นวนิยาย) -- ประวัติและวิจารณ์
比较文学
中国小说 -- 历史与批评
泰国小说 -- 历史与批评
跨文化教育
对文学的热爱
内容分析
Issue Date: 2011
Publisher: Huachiew Chalermprakiet University
Abstract: 《梁山伯与祝英台》在中国是一个家喻户晓的爱情故事,讲述了中国古代一对青年男女相知相爱却不能厮守的故事。《梁山伯与祝英台》在上个世纪50年代曾经被拍成中国第一部彩色电影,并被当时的中国总理周恩来带到日内瓦给国际知名人士观看,并称之为“中国的《罗密欧与朱丽叶》。作为中国最著名的文学作品之一,中国的学者对《梁祝》的研究从很久以前就开始了,《梁祝》最早的文字资料可以追溯到唐初《十道四番志》。到今天,《梁祝》的研究遍地开花,在中国以外的学者也十分的关注《梁祝》的研究,并把《梁祝》的文学价值推向了全世界。 而泰国的文学作品《曼谷王朝》也是泰国人民非常喜欢的,也是讲述了青年男女对爱情的向往和在追求爱情的过程中所遇到的挫折。《曼谷王朝》并没有《梁祝》那样悠久的历史渊源和文化背景,所以研究《曼谷王朝》这个作品的人并没有《梁祝》这么多。但是《曼谷王朝》也记录了泰国曼谷王朝的历史和文化,向现代人讲述了几百年前泰国人民的生活方式和爱情观,有着很高的文化价值,有很多泰国 研究泰国文化泰国历史的专家学者也把《曼谷王朝》这个文字作品当做研究的对象,当做了解泰国曼谷王朝初期文化的途径。 本次论文将从中泰两国之间爱情婚姻和女性在古代的地位和生活作为入手点去学习和研究,收集和学习前人所整理出来的资料,并从中泰两国之间的对比作为有别于前人的研究题目,去重点找寻两国的差异和对比,来形成这次论文的主导线,收集文献资料,完成这次的论文任务。
“ม่านประเพณี” เป็นนิยายรักที่ชาวจีนรู้จักกันทั่วไป เนื้อเรื่องได้พรรณนาถึงคู่รักที่รัก กันมาก แต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เรื่อง “ม่านประเพณี” ได้เคยถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1950 ซึ่งเป็นภาพยนตร์สีเรื่องแรกของประเทศจีน โดยนายโจว เอินไหล ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายให้แขกชาวต่างชาติชม ณ เมื่อเจนิวา หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วผู้คนต่างขนานนามว่าเป็น “โรมิโอจูเลียต” ของจีน เนื่องจาก “ม่านประเพณี” เป็นหนึ่งในวรรณคดีที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน จึงได้มีนักวิชาการชาวจีนศึกษาวิจัยมากมาย สมัยราชวงศ์ถังก็มีการจดบันทึกเรื่อง “ม่านประเพณี” มีการเผยแพร่เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกปรากฏอยู่ในตำราชื่อ “สือต้าวสื่อฟานจื้อ” จนกระทั่งทุกวันนี้การศึกษาวิจัยเรื่อง “ม่านประเพณี” ก็ยังได้รับความสนใจ นักวิจัยชาวต่างประเทศก็สนใจเรื่องนี้มากขึ้นเช่นกัน ทำให้ “ม่านประเพณี” มีคุณค่าด้านวรรณคดีไปทั่วโลก วรรณคดีเรื่อง “รัตนโกสินทร์” เป็นเรื่องที่คนไทยชื่นชอบ ได้บอกเล่าถึงความรักของ หนุ่มสาวและการต่อสู้กับอุปสรรคความรัก “รัตนโกสินทร์” ไม่ได้มีประวัติและวัฒนธรรมที่ยาว นานเหมือนเรื่อง “ม่านประเพณี” จึงมีคนศึกษาวิจัยน้อย แต่ในเนื้อเรื่องของเรื่อง “รัตนโกสินทร์” ได้บอกเล่าถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในช่วงรัตนโกสินทร์ ทำให้คนสมัยใหม่สามารถรับรู้เรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ในช่วงหลายร้อยปีก่อนได้ว่า เรื่องราวความรักและวิถีชีวิตของคนไทยเป็นอย่างไร เรื่องนี้มีคุณค่าด้านวรรณคดีเป็นอย่างมาก มีคนจำนวนมากที่เน้นในการวิจัย เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย ได้นำเรื่อง “รัตนโกสินทร์” นำมาศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ ได้นำเอาเรื่องราวความรัก การแต่งงาน สิทธิและชีวิตของผู้หญิงเป็นมุมมองสำคัญในการศึกษาวิจัย ได้รวบรวมและศึกษาข้อมูล และเอาความแตกต่างของทั้งสองประเทศมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้เกิดความแตกต่างกับงานวิจัยของผู้อื่น
“The Butterfly Lovers” is a love novel well-known by Chinese people. It describes about China in ancient time in which there was a couple who loved each other very much but they could not be together. This novel was made as a movie in 1950 and was the first color movie of China. Mr.Zhou En Lai, who was the prime minister at that period, showed this movie among foreign guests in Geneva. Those who had seen this movie all compared it as Romeo and Juliet story of China. Since it is one of Chinese popular literatures, there are some Chinese researchers who have been researching this novel for a long time. During Tang Dynasty, this novel was noted in “Shidaosifanzhi”book. Up to today, the researches about this story have been increasingly interested, especially by foreign researchers. This makes the story of “The Butterfly Lovers” more valuable in terms of literature worldwide. A literature titled “Rattanakosin” is popular among Thai people. It tells about the love of a couple and the fighting against their love obstacles. This story does not have a long history and culture as the story of “The Butterfly Lovers” does. Therefore, there are a few researchers. Its plot describes the culture and history during the era of the Chakri Dynasty so modern people cannot know the story of history occurred in many hundred years ago regarding what Thai people’s love styles and ways of life in the past were. This story is much valuable in terms of a literature. Manypeople who have researched about Thai history and cultures have been learning Thai cultures during the early era of the Chakri Dynasty from this story. This thesis emphasizes on the story of love, marriage, and rights and life of women as the important point in the research. Information was gathered and studied, and the differences between two countries were compared in order to differentiate from other researches. Main concept over this thesis is the gathering of related information to be written as a complete work.
Description: Thesis (M.A.) (Modern and Contemporary Chinese Literature) -- Huachiew Chalermprakiet University, 2011
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/545
Appears in Collections:College Of Chinese Studies - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Abstract.pdf434.12 kBAdobe PDFView/Open
TableofContents.pdf320.56 kBAdobe PDFView/Open
Chapter1.pdf509.29 kBAdobe PDFView/Open
Chapter2.pdf
  Restricted Access
651.86 kBAdobe PDFView/Open Request a copy
Chapter3.pdf
  Restricted Access
502.33 kBAdobe PDFView/Open Request a copy
Chapter4.pdf
  Restricted Access
481.06 kBAdobe PDFView/Open Request a copy
References.pdf418.85 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.