งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการจัดตารางการผลิตแบบตามสั่ง เพื่อลดเวลาส่งงานไม่ทันกำหนดรวมให้มีค่าน้อยที่สุดโดยวิธีการจัดตารางการผลิตแบบตามสั่ง ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนขั้นตอนแรกเป็นการแบ่งกลุ่มงานมอบหมายงานให้เครื่องจักรโดยใช้กฎการจ่ายงานด้วยเกณฑ์ทำงานที่ถึงวันกำหนดส่งเร็วที่สุดก่อนโดยพิจารณา ข้อจำกัดในการผลิตขวดพลาสติกและลำดับความสำคัญของลูกค้า ขั้นตอนที่สอง การจัดลำดับงานให้กับเครื่องจักร โดยการค้นหาแบบตาบูเพื่อ หาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดส่วนการสร้างคำตอบตั้งต้นได้ทำการหาคำตอบข้างเคียงเพื่อช่วยหาคำตอบที่เป็นไปได้ทั้งหมดโดยการหาคำตอบข้างเคียงได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยคำนวณหาผลลัพธ์ ตามวิธีการค้นหาคำตอบข้างเคียงและการค้นหาแบบตาบูจากผลการทดลองในช่วงงานที่ 70-90 งานช่วงงานที่ 91-110 งานช่วงงานที่ 111-130 งานและช่วงงานที่131-150 งานพบว่าวิธีการจัดตารางการผลิตโดยวิธี Insertion Interchangeให้ค่า เวลาส่งงานไม่ทันกำหนดรวมน้อยกว่าการจัดตารางการผลิตแบบเก่าโดยใช้หลักเกณฑ์รับก่อนทำก่อนประมาณ  95% ส่วนของเวลาในการจัดตารางการผลิตใช้เวลาน้อยกว่าวิธีการจัดตารางการผลิตแบบเ ก่าโดยใช้หลักเกณฑ์รับก่อนทำก่อนประมาณ  80% ในทุกๆช่วงงานในการหารอบการค้นหาที่ให้ค่าเวลาส่งงานไม่ทันกำหนดรวมน้อยที่สุดมีลักษณะแบบสุ่มส่วนการจัดตารางการผลิตแบบใหม่ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันพบว่า รอบการค้นหาที่  20 40  60  80  100  และ  120 รอบ  วิธี  Insertion  Interchange ให้ค่า เวลา ส่งงานไม่ทันกำหนดรวมที่ดีแตกต่างกันขึ้นกับแต่ละช่วงงานและเวลาในการรันโปรแกรมมีความสัมพันธ์กับรอบการค้นหาและจำนวนงานที่ทำการผลิต
 
This research studies and solves the problem of Job Shop Scheduling for Plastic bottle Production. The objective of the study is to reduce the total tardiness of the scheduling results. A  two-phase  approach  is  proposed  for  solving  this  problem.  In  the  initial  phase,  a  starting solution  is  allocated  that  uses  priority  rule  common  Earliest  Due  Date  and  constraint  of machine. The second phase is a sequencing that uses a tabu search. In the start of operation, an initial building  answer uses  the Neighborhood Search  with Insertion  Interchange. Finally,  a tabu  search  approach  is  used  to  search  and  optimize  the  answer.  The  experiments  are  ran using  range  70-90,  91-110,  111-130,  and  131-150  jobs.  The  result  reveals  that  the  Insertion Interchange  method  has  95  percent  less  total  tardiness  than  the  First  Come  –  First  Served method. The method can reduce the time for planning scheduling by 80 percent. The number of iteration resulting the minimum total tardiness has the random pattern. The result indicates that the total tardiness is different  at each iteration 20, 40, 60,  80, 100 and 120 iterations.  In addition, the run time is related to number of iteration and number of job.