Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อศึกษา 1) ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนงานของพนักงานบริษัท คาม่าร่วมทุน จำกัด 2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนงานจำแนกตามข้อมูลพื้นฐานของพนักงานบริษัท คาม่าร่วมทุนจำกัด และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติงาน ความพึงพอใจในการทำงานกับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงงานของพนักงานบริษัท คาม่าร่วมทุน จำกัด
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม โดยสอบถามกลุ่มพนักงานบริษัท คาม่า ร่วมทุน จำกัด จำนวนทั้งสิ้น 235 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS/FW โดยใช้ค่าสถิติได้แก่ การแจกแจงความถี่ (Frequency Distribution) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าสถิติ t-test (Independent Sample t-test) ค่าสถิติ f-test (One-way ANOVA) และค่าสถิติ Pearson Product Moment Correlation Coefficient ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการศึกษา พบว่า พนักงานส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อยู่ในสถานภาพโสด ลักษณะที่พบมากที่สุด คือ อายุ 26-30 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ทำงานในตำแหน่งงานฝ่ายสำนักงาน มีอายุการทำงาน 1 ปีหรือน้อยกว่า และมีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 8,000 บาท พนักงานมีการปฏิบัติงานในด้านค่าตอบแทน สภาพการทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โดยภาพรวมในระดับปานกลาง (x̄ = 3.61) ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพนักงานในการเปลี่ยนงานด้านความสำเร็จในการทำงาน การได้รับการยอมรับ ลักษณะงานที่ทำ ความก้าวหน้าในอาชีพ และความรับผิดชอบโดยภาพรวมในระดับปานกลาง (x̄ = 3.23) และมีความพึงพอใจในการทำงานในระดับปานกลาง (x̄ =3.26) นอกจากนี้พนักงานยังให้ข้อเสนอแนะมากที่สุด คือ สวัสดิการต่างๆ เช่น ชุดฟอร์ม อาหาร รถรับส่ง การเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าที่พัก เงินเกษียณอายุ ควรมีให้มากกว่านี้
ผลการทดสอบสมมติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 พบว่า 1) ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน และรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงงานแตกต่างกัน 2) การปฏิบัติงานในด้านค่าตอบแทน สภาพการทำงาน ความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน มีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนงาน และ 3) ความพึงพอใจในการทำงาน มีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนงาน