เศรษฐศาสตร์ในชีวิตประจำวันว่าด้วยเรื่องส่วนเกินผู้บริโภค คือ ส่วนหนึ่งของเศรษฐศาสตร์สวัสดิการ(Welfare economics) อันประกอบด้วยเรื่องของส่วนเกินผู้บริโภค และส่วนเกินผู้ผลิต ส่วนเกินผู้บริโภค (Consumer Surplus) หมายถึง ส่วนต่างระหว่างราคาที่ผู้บริโภคจ่ายจริงกับราคาที่ผู้บริโภคเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อให้ได้สินค้านั้น ส่วนเกินผู้ผลิต (Producer Surplus) หมายถึง รายรับรวมที่มากกว่าต้นุทนการผลิต ส่วนเกินผู้ผลิตจะเกิดขึ้นเมื่อราคาสินค้าที่ขายได้จริงสูงกว่าราคาที่ควรจะขายได้
หลักเศรษฐศาสตร์ในเรื่องของส่วนเกินผู้บริโภคมีประโยชน์กับบุคคลหลายกลุ่ม แบ่งออกเป็น ประโยชน์ที่มีต่อผู้บริโภค ประโยชน์ที่มีต่อผู้ผลิตหรือหน่วยธุรกิจ และประโยชน์ที่มีต่อภาครัฐบาล ดังนี้ ประโยชน์โดยตรงที่มีต่อผู้บริโภค คือ ผู้บริโภคจะตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า และบริการบนหลักความสมเหตุสมผลเพื่อใหได้รับความพอใจสูงสุด ผู้บริโภคสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง มีสินค้าให้ผู้บริโภคเลือกมากขึ้น เป็นต้น ประโยชน์ที่มีต่อผู้ผลิตหรือหน่วยธุรกิจ โดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น สามารถเพิ่มยอดขายให้กับผู้ผลิตได้ ประโยชน์ที่มีต่อภาครัฐบาล รัฐบาลสามารถนำหลักการเรื่องส่วนเกินผู้บริโภคไปใช้ในการวางนโยบายและจัดสรรงบประมาณในด้านที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ในเรื่องของความเต็มใจที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมของนักท่องเที่ยวที่จะเข้าเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติในแต่ละพื้นที่ว่าควรเก็บค่าธรรมเนียมจำนวนเท่าไร เพราะอะไร
Day-to-day economics on consumer surplus is part of the welfare economics. It deals with consumer and producer surplus. Consumer surplus is a difference that a consumer is willing to pay more for a desired which already included the costs above the sticker price.
Consumer surplus benefits consumers, producers, and the government. Consumers pay reasonably less for something that they were extremely satisfied. Products are cheaper with more varieties. Online businesses can directly reach more clients resulting in more profit. Government can use consumer theory to set a policy and allocate the appropriate budget. For instance, how much an entrance fee should be for tourists to visit a natural park taking into account what they are willing to pay.