การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบริโภคนิยมกับความมีระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Abstract

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่านิยมทางสังคมซึ่งจำกัดเฉพาะค่านิยมด้านบริโภคนิยมกับจริยธรรมทางความมีระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ระดับปริญญาตรี ภาคปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาจำนวน 535 คน ที่สุ่มมาจากประชากรจำนวน 3,800 คน ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2542 ชั้นปีที่ 1-4 ทุกคณะวิชา โดยใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (multi-stage sampling) คือ แบบแบ่งชั้น (stratified sampling) และการสุ่มแบบง่าย (simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมเป็นแบบสอบถามวัดระดับค่านิยมและทัศนคติที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้นตามวิธีของลิเคิร์ท จำนวน 65 ข้อ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 : แบบสอบถามวัดระดับจริยธรรม และพฤติกรรมจริยธรรมคาดหวังด้านความมีระเบียบวินัย ส่วนที่ 2 แบบสอบถามวัดระดับจริยธรรมและพฤติกรรมจริยธรรมคาดหวังด้านความซื่อสัตย์ ส่วนที่ 3 แบบสอบถามวัดระดับค่านิยมด้านบริโภคนิยม ผลของการศึกษาพบว่า 1.ระดับค่านิยมแบบบริโภคนิยมของนักศึกษา มีความสัมพันธ์กับระดับจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ว่านักศึกษามีค่านิยมแบบบริโภคนิยมอยู่ในระดับต่ำจะมีจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์อยู่ในระดับสูง 2.ระดับจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยมีความสัมพันธ์กับระดับความซื่อสัตย์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ว่านักศึกษาที่มีจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยอยู่ในระดับสูงจะมีความซื่อสัตย์อยู่ในระดับสูงด้วย 3.นักศึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติระดับปริญญาตรี ภาคปกติ โดยภาพรวมมีค่านิยมแบบบริโภคนิยมอยู่ในระดับต่ำและมีจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยและความซื่อสัตย์อยู่ในระดับสูง 4.เมื่อศึกษาเปรียบเทียบตามชั้นปีการศึกษา พบว่านักศึกษาแต่ละชั้นปีมีจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้

The objective of this study is to examine the correlation between a social value, materialism, and the levels of discipline and honesty of students. The population for this study is 3,800 Huachiew Chalermprakiet University's regular program undergraduate students. Subjects for this study are 535 students sampled from the population, using multi-stage samplings that are stratified sampling and sampling and simple random sampling. The instrument used in collecting data in a questionnaire which was developed by the researchers. It consists of three parts, evaluation the levels of materialism, discipline, and honesty. The study shows the following findings: 1.There is significant correlation between the levels of materialism, discipline, and honesty. The level of significance is 0.050. It means if the students have a low level of materialism, they will have a higher level of discipline, and honesty. In the same fashion, of the students have a high level of materialism, they tend to have a low level of disciple, and honesty. 2.There is a significant correlation between the levels of discipline and honesty. The level of significance is 0.05. It means if the students have a high level of discipline, they will also have a higher level of honesty. On the contrary, if the students have a low level of discipline, they have a low level of honesty as well. 3.Generally, Huachiew Chalermprakiet University's students are highly disciplined and honest. 4.The levels of discipline of Huachiew Chalermprakiet University's students differ significantly by their years of study. The level of significance is 0.05.