Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/185
Title: | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดชลบุรี |
Other Titles: | Factors Effecting on Sexual Relation of Female Students at High School, Department of General Education, Chonburi Province |
Authors: | ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล Thipaporn Phothithawil พงษ์สัณชัย ปะวันนา Pongsanchai Pawanna Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare |
Keywords: | เพศสัมพันธ์ นักเรียนมัธยมศึกษา -- ไทย -- ชลบุรี สตรี -- พฤติกรรมทางเพศ วัยรุ่น -- พฤติกรรมทางเพศ Sex Teenagers -- Sexual behavior Women -- Sexual behavior High school students -- Thailand -- Chonburi |
Issue Date: | 2006 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
Abstract: | การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีเพศสัมพันธ์ ของนักเรียนหญิง ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดชลบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิง (2) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีเพศสัมพันธ์ และนำไปสู่การขายบริการทางเพศของนักเรียนหญิง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 373 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS for Window เพื่อหาค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Multiple Regression Analysis)ผลการศึกษา1.พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า มีนักเรียนหญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 53.1 และนักเรียนหญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 46.9 นักเรียนหญิงส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ 10 ครั้ง/เดือน รูปแบบของการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า ส่วนใหญ่ ในรอบ 1 เดือน ที่ผ่านมาเคยมีเพศสัมพันธ์ เคยมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ วิธีการติดต่อโดยผ่านสื่อต่าง ๆ หรือการนำเสนอตัวเองให้บุคคลอื่น ๆ ได้รู้จักเพื่อทำให้เกิดมีเพศสัมพันธ์ในขั้นต่อไป ส่วนใหญ่ ติดต่อกับบุคลที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง ความเสี่ยงต่อการเกิดโรค การตั้งครรภ์ จากการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า ส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศแต่ละครั้งได้ป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับวิธีการป้องกันและการแก้ไข พบว่าส่วนใหญ่ใช้วิธีป้องกันการเกิดโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และใช้วิธีการป้องกันตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์โดยการใส่ถุงยางอนามัย ส่วนวิธีการแก้ไขการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และการทำแท้ง พบว่าส่วนใหญ่ เคยตั้งครรภ์และทำแท้ง 3 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 31.6 และ 33.3 ระดับความพึงพอใจต่อสิ่งที่ได้รับตอบแทนจากการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง2.ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิง ได้แก่ รายได้ กลุ่มเพื่อน และทัศนคติเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์1)เด็กนักเรียนหญิงที่มีรายได้จากพ่อ-แม่ให้มาก มีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์มากกว่าเด็กนักเรียนหญิงที่มีรายได้จากพ่อ-แม่ให้น้อย2)เด็กนักเรียนหญิงที่มีการพบปะกลุ่มเพื่อนที่มีเพศสัมพันธ์มาก มีโอกาสเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์มากกว่าเด็กนักเรียนหญิงที่ไม่มีกลุ่มเพื่อนที่มีเพศสัมพันธ์3)เด็กนักเรียนหญิงที่มีทัศนคติที่ไม่ดีมีเพศสัมพันธ์มากกว่าเด็กนักเรียนหญิงที่มีทัศนคติที่ดี แต่เด็กนักเรียนหญิงที่มีทัศนคติที่ดีกลับมีเพศสัมพันธ์น้อยกว่าเด็กนักเรียนหญิงที่มีทัศนคติที่ไม่ดี อาจจะเป็นเพราะความต้องการของฝ่ายตรงข้าม เช่น คนรัก แฟน และเพื่อนสนิทจากการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสถานเริงรมย์และสื่อที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ครอบครัวควรมีเวลาอบรมเลี้ยงดู ให้ความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจในตัวเด็ก สถาบันการศึกษา ควรจัดให้มีการปลูกฝังในด้านทัศนคติให้กับเด็กนักเรียนเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในด้านต่าง ๆ และควรให้ครูสอดแทรกเหตุการณ์ จริงที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย ชุมชนควรมีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลสมาชิกในชุมชน และเด็กนักเรียนควรมีการเลือกคบเพื่อน พร้อมกับคิดถึงเป้าหมายในอนาคต โดยควรคำนึงถึงจิตใจของบิดามารดาให้มากขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ ที่สามารถทำให้เกิดแนวโน้มมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการขายบริการทางเพศแบบแอบแฝงของเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มนี้ด้วย Factors effecting on sexual relation of female students at high school, Department of General Education, Chonburi Province are purposed as (1) studying of sexual relation behaviour (2) studying of factors which are effected for sexual relation and to be led to the procedures of sexual trade service of female students. Sample groups are used for studies, there are 373 female students at high school personal data information collections are used by questionairs and data are analyzed by SPSS for window program, to find out Percentage, Mean, Standard Deviation and Variable of Relation value with Multiple regression Analysis.The Results of Education 1) Sexual relation behaviour found, are 53.1% of female students who had no sexual relation and 46.9% of them had sexual relation. Most of them had sex related 10 times per month. The pattern, form formal of sexual relation found in one month that they had to have sex related with boyfriends by contacting with different kinds of media or personal presentation to persuade more people for nest step to get sexual relation, mostly they directly contacted persons who had sex related with them. Risk of contagious diseases and pregnant from sexual relation found most of them had sex related with their boyfriends by using prevention plan ovoid pregnant each time. Prevention and solution found they were using condoms almost time to prevent risk of contagious diseases and pregnancy. The solution of unexpected pregnancy was to have an abortion. Most of them have sex relation even they have ever had 3 abortions before, approximately 31.6% and 33.3% and level of pleasure to feed back from sexual relation found in the middle. 2) Factors which are effected for sexual relation to female students, are incomes, group of friends and attitude of sexual relation as below.1. Female students who have high incomes from parents, have more chance to have sex relation than female students who have low incomes.2. Female students who have group of friends with sexual relation, have more chance to get sex related than female students whom have no group of friends.3. Female students with bad attitude have more chance to get sex related than female students with good attitude. But female students with good attitude have not much sex related than female students with bad attitude, they may be requested by their lovers, boyfriends and close friends.From this research has shown that among the circumstances which are fully of entertainmentPlaces and many kinds of media could stimulate to get sexual emotion. The family must be take care and pay more attention by giving more love, warmth and more understanding in their children. Institute of education should organize to implant addtitude in sexology for students to get more knowledge, general understanding and teachers should follow up and update the real situation at present. The community should cooperate to pay more attention to all members and students should aware in accompanying with friends by thinking to the future target and the spirit of their parents. To be the guidance which is very important to prevent the risk of sexual relation behaviour which can cause the tendency to the risk of behaviour in hidden sexual trade services in female students of this group. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (สส.ม.) (สาขาวิชาการบริหารสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2549 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/185 |
Appears in Collections: | Social Work and Social Welfare - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Abstract.pdf | 375.69 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Tableofcontent.pdf | 196.88 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Chaphter1.pdf | 870.09 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Chaphter2.pdf | 5.34 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Chaphter3.pdf | 468.09 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Chaphter4.pdf | 1.87 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Chaphter5.pdf | 871.23 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Reference.pdf | 1.2 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.