Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/231
Title: | คุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยศึกษาเฉพาะกรณี : พนักงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทเอกชน |
Other Titles: | The Quality of Working Life of Security Guards : A Case Study in Private Firms |
Authors: | โชคชัย สุทธาเวศ Chokchai Suttawet ธนวัฒน์ เรืองเดช Tanawat Rouangdej Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare |
Keywords: | พนักงานรักษาความปลอดภัย คุณภาพชีวิตการทำงาน Quality of work life Security guards |
Issue Date: | 2002 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน ของพนักงานรักษาความปลอดภัย 2) ศึกษาแนวทางการจัดการและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยการศึกษาใช้ทั้งการสำรวจพนักงานรักษาความปลอดภัย ในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร และสัมภาษณ์ผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยของสมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย ในการสำรวจผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบผสมผสาน ได้กลุ่มตัวอย่างพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวน 450 คน ใน 36 บริษัท ในการสัมภาษณ์ ได้ ทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารรักษาความปลอดภัย จำนวน 25 ท่าน และทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยโปรแกรม SPSS For Window เพื่อหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรโดยใช้ตารางไขว้ (Cross Tabulation) และค่าสถิติไคสแควร์ (Chi-Square) พร้อมกับนำข้อมูลจากการสัมภาษณ์มาเสริมในการอธิบายและนำเสนอแนวทางการจัดการคุณภาพชีวิตการทำงานผลการศึกษาข้อมูลทั่วไป พบว่า โดยส่วนใหญ่ผู้ตอบเป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 32 ปี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 เป็นโสดและสมรสใกล้เคียงกัน มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรายจ่ายและภาระหนี้สินต่ำกว่า 4,500 บาท ต่อเดือน และมีตำแหน่งเป็นพนักงานปฏิบัติการในพื้นที่ มีอายุการทำงาน 2 ปีขึ้นไป และเป็นลูกจ้างประจำประเภทรายวันผลการศึกษาพบว่าระดับคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยเมื่อเรียงลำดับจากสูงไปหาต่ำ คือด้านศักยภาพปัจเจกบุคคล ด้านความเป็นธรรมและความเสมอภาค ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคง ด้านประชาธิปไตยในการทำงาน เมื่อสรุประดับคุณภาพชีวิตในการทำงานโดยรวมมีระดับต่ำเกือบปานกลางผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยและผลการทดสอบสมมติฐานพบว่าตัวแปรต้นทุกตัวมีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันคือปัจจัยด้านสถานภาพองค์การที่พนักงานไปปฏิบัติหน้าที่ มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานด้านความเป็นอารยธรรมและความเสมอภาค ด้านศักยภาพปัจเจกบุคคล และด้านประชาธิปไตยในการทำงานปัจจัยขนาดองค์การที่พนักงานสังกัดอยู่ มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานในทุกด้านปัจจัยด้านระบบการจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทรักษาความปลอดภัย มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน ในแต่ละเรื่องของการจัดการแตกต่างกัน คือ เรื่องจำนวนชั่วโมงการทำงาน มีคุณภาพชีวิตการทำงาน 2 ด้าน คือ ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคง ด้านประชาธิปไตยในการทำงาน เรื่องลักษณะการจ้างและลักษณะสัญญา เรื่องค่าตอบแทนที่ได้รับและเรื่องการจัดสวัสดิการ มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานในทุกด้านเรื่องการฝึกอบรม และเรื่องการควบคุมและการมาตรวจงานของบริษัท มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน ในด้านประชาธิปไตยในการทำงาน เรื่องจริยธรรมของหัวหน้างาน และเรื่องการกำหนดเครื่องมือการทำงาน มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน ในด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงปัจจัยด้านลักษณะงานที่ได้รับมอบหมาย มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน 2 ด้านคือ ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงและด้านประชาธิปไตยในการทำงานจากการศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงาน ดังนี้ 1) ด้านความก้าวหน้าและมั่นคง คือ บริษัทควรเพิ่มทักษะ ความรู้ จัดรูปแบบการปรับตำแหน่งและค่าตอบแทน การโยกย้ายหน้าที่ ตามความสามารถ และผลงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างมีระบบ ควรจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2) ด้านความเป็นธรรม คือบริษัทควรกำหนดอัตราค่าแรง สวัสดิการ อย่างน้อยเท่าที่กฎหมายกำหนด และควรกำหนดระเบียบข้อปฏิบัติ ข้อห้าม ข้อตกลงตามเงื่อนไข ที่อยู่ในวิสัยบุคคลธรรมดาสามารถปฏิบัติได้ 3) ด้านปัจเจกบุคคล คือบริษัทควรส่งเสริมการจัดการฝึกอบรมทักษะ ให้ความรู้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ และควรกำหนดรูปแบบการมอบหมายงานให้มีความเหมาะสมกับตัวพนักงานตลอดถึงการพัฒนาบุคลากรระดับหัวหน้าให้มีความรู้ที่แท้จริง 4) ด้านประชาธิปไตยในการทำงาน คือบริษัทควรกำหนดสายงานการบังคับบัญชาที่ชัดเจน และควรเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็น พร้อมกับยอมรับการปรับปรุงแก้ไขอย่างเปิดกว้างจริงใจ ตลอดถึงควรกำหนดรูปแบบการประชาสัมพันธ์ข่าวสารแก่หนักงานในองค์การอย่างต่อเนื่องข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป ควรทำการวิจัยหัวข้อต่อไปนี้ 1) การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยระหว่างขนาดองค์การและลักษณะงานที่ได้รับมอบหมาย 2) การศึกษากฎหมายแรงงานที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัย 3) การศึกษาทัศนคติของผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการต่อแรงงานพนักงานรักษาความปลอดภัย ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงาน 4) การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างผลดี-ผลเสียต่อพนักงานรักษาความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น จากร่างพระราชบัญญัติด้านคุณภาพชีวิตการทำงาน 5) การศึกษาปัญหาหรือข้อจำกัดของบริษัทรักษาความปลอดภัยในการบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัย The research is a study of the quality of working life of security guards with the objectives of :1) studying the factors which affect to the quality of working life of security guards.2) Studying guidelines for development of quality of working life of security guards.The research is done by both survey and interview methods. The survey is used in order to get data from the security guards in Bangkok Metropolitan areas, and the interview is used in order to get data from the management board of the of the Executive Security Services Association of Thailand. The researcher selects the sampling groups by multiple random sapling method for 450 security guards within 36 companies to fill in the guestion naires, and 25 executives are interviewed. The SPSS Programme for Window is used to deal with percentage, mean and crosstulation analysis. And Chi-Square to test is used to test hypotheses. The general data shows that most of the sampling groups are male with 32 years of age in average and completed Grade 6 of education. The numbers of married and single are about the same amount. Most are from the North-East of Thailand. Their expenditures and dabts are lower than 4,500 Baht per month. They are daily-payment-based employees who work in assigned areas. The average of working year of employees is above two years. The finding the study indicates the levels of quality of working life ganging from high to low as followings : individuality, fair treatment work, progress and security of work and democracy at work. In average, the quality of working life is at a lower-midle level. The data shows that all independent variables affect to quality of working life at different levels. That is the factor of organization where staffs service for, affects to the quality of working life in the dimension of fair treatment individual ability and democracy of work. The factor of size of organization where the staffs work under, affects the the quality of working of life at all levels. The human resource management of company affects to the quality of working life in the different ways. That is, working hour affects to the quality of working life in two dimensions ; progress, security of work, democracy at work, hiring system and contract, remuneration; and welfare management affect to the quality of working life in all levels. Company training, controlling and monitoring affect to quality of working life on democracy at work. The morality of foreman and the equipment facilitating affect to the quality of working life in the dimension of work progress and stability. The assigned work affects to the quality of working life in two dimensions, that is work progress and stability and democracy at work.The researcher suggests for improving of the quality of working life ad followings.1. For the work progress and stability; the firms should support the development of skill and knowledge. The position transfer, responsibility and remuneration should depend or the capability of security guards. The firm should also pay employees cover and expenditure in a proper cost of living. 2. For the fair treatment the firms should set out the rate of wages and welfare, depending on legul mandatory concerned and agreements. 3. For the individuality; the firms should always support training, skill and knowledge development of staffs and should assign work is suitable for staffs and also have a clear supervision. 4. For democracy at work; the firms should set a clear chain of command and should give and opportunity to staffs’ initiative and also accept to improve activities openly with a continuous floe of communication and information to in organization. The research in the future should be focused as following ;1. A comparative study of the performance efficiency of security guards among organization in different sizes. 2. Labour lows and the effects to the quality of working life of security guards.3. Attitude of the firms’ owners on the quality of working life of security guards.4. Effects of drafting law concerning on quality of working life of security guards.5. Problems or limitations of security enterprises in managing the firm and quality of working life of security guards. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (สส.ม.) (การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2545 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/231 |
Appears in Collections: | Social Work and Social Welfare - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
abstract.pdf | 530.14 kB | Adobe PDF | View/Open | |
tableofcontent.pdf | 296.66 kB | Adobe PDF | View/Open | |
chapter1.pdf | 880.24 kB | Adobe PDF | View/Open | |
chapter2.pdf | 3.27 MB | Adobe PDF | View/Open | |
chapter3.pdf | 170.42 kB | Adobe PDF | View/Open | |
chapter4.pdf | 4.23 MB | Adobe PDF | View/Open | |
chapter5.pdf | 1.67 MB | Adobe PDF | View/Open | |
references.pdf | 1.26 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.