Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3863
Title: การศึกษาเปรียบเทียบการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย
Other Titles: Comparison Study of the Financial Crisis Problem Solving between Thai Farmer Bank and Thai Military Bank
Authors: พรรณราย แสงวิเชียร
Pannarai Saengwichian
พรศักดิ์ พิพัฒนวิไลกุล
Pornsak Pipattanavilaikul
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration
Keywords: ธนาคารและการธนาคาร -- ไทย
Banks and banking -- Thailand
วิกฤตการณ์การเงิน -- ไทย
Financial crises -- Thailand
วิกฤตการณ์การเงิน -- ผลกระทบจากนโยบายการเงิน
Financial crises -- Effect of monetary policy on
การจัดการธนาคาร
Bank management
การชำระหนี้
Performance (Law)
การบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน
Asset-liability management
ธนาคารกสิกรไทย -- การเงิน
Thai Farmer Bank -- Finance
ธนาคารทหารไทย -- การเงิน
Thai Military Bank -- Finance
Issue Date: 2002
Publisher: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
Abstract: การจัดทำรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย โดยศึกษาจากผลการดำเนินงานของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย ในช่วงก่อนและหลังการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจไทย โดยพิจารณาถึงอัตราส่วนทางด้านการเงินในกิจกรรมต่าง ๆ 4 ด้านด้วยกันคือ อัตราส่วนด้านสภาพคล่อง (Liquidity Ratio) อัตราส่วนด้านสัดส่วนเงินทุน (Leverage Ratio) อัตราส่วนด้านกิจกรรม (Activity Ratio) และ อัตราส่วนด้านความสามารถทำกำไร (Profitability Ratio) และความสามารถในการบริหารงานของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย ในช่วงระหว่างปี 2539-2543 และศึกษาผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจที่มีต่อธนาคารพาณิชน์ของไทยและการปรับตัวเพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทยสรุปผลการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทยในช่วงก่อนและหลังการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจไทย มี 4 ข้อ ดังนี้1) ด้านความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น จากปี 2539-2543 จะเห็นได้ว่า ธนาคารกสิกรไทยมีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นได้ดีกว่าธนาคารทหารไทย แสดงว่า ธนาคารกสิกรไทยมีสภาพคล่องยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก็ตาม แต่ธนาคารสามารถรักษาสภาพคล่องให้มีอย่างเพียงพอและรักษาเสถียรภาพในการดำเนินงาน จึงส่งผลให้สภาพคล่องยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่สำหรับธนาคารทหารไทยมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจะต้องเร่งแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเพิ่มทุนของธนาคารอย่างเพียงพอ2) ด้านความสามารถในการก่อหนี้ ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย มีอัตราส่วนหนี้สินสูงในระดับใกล้เคียงกัน แสดงถึงสัดส่วนทุนของธนาคารทั้งสองยังมีภาระหนี้สินสูง3) ด้านประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพยก์ จากการวิเคราะห์จะเห็นว่า ในปี 2539-2542 ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย มีค่าติดลบ เนื่องจากธนาคารไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำให้รายได้ของธนาคารลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของธนาคารมาจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล แต่ในปี 2543 ธนาคารกสิกรไทย มีค่าเป็นบวก อาจเป็นเพราะธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญไว้มีจำนวนเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดและธนาคารยังมีกำไรจากการปริวรรตและกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่วนธนาคารทหารไทยมีค่าติดลบ อาจเป็นเพราะธนาคารไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ NPLs จากลูกหนี้ได้รวมทั้งต้องตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญไว้ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดด้วย4) ด้านความสามารถในการทำกำไร ตั้งแต่ปี 2539-2542 ทั้งธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทยมีความสามารถทำกำไรที่ลดลง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่องและปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เป็นจำนวนมาก เพราะรายได้หลักของธนาคารมาจากรายได้จากดอกเบี้ยงและเงินปันผล ทำให้ธนาคารประสบกับปัญหาในการทำกำไร แต่ในปี 2543 ธนาคารกสิกรไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารได้แก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไปแล้ว และธนาคารมีรายได้จากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ กำไรจากการปริวรรต ฯลฯ แต่สำหรับธนาคารทหารไทยมีค่าติดดลบเนื่องมาจาก ธนาคารมีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งธนาคารต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ธนาคารไม่มีกำไรจากผลการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารทหารไทย จะเห็นได้ว่าธนาคารกสิกรไทย ควรแก้ไขด้านความสามารถในการก่อหนี้ ส่วนธนาคารทหารไทย ควรแก้ไขด้านความสามารถในการชำระหนี้สินระยะสั้น ด้านความสามารถในการก่อหนี้ ด้านประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ และด้านความสามารถในการทำกำไร เป็นต้น
Description: ภาคนิพนธ์ (บธ.ม.) (บริหารธุรกิจ) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2545
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3863
Appears in Collections:Business Administration - Independent Studies

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
A-Comparison-Study-of-the-Financial-Crisis-Problem-Solving.pdf
  Restricted Access
15.45 MBAdobe PDFView/Open Request a copy


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.